หลักฮวงจุ้ย
หลักการจัดวาง ตกแต่งอาคารบ้านเรือน ตามหลักของฮวงจุ้ย
ความเป็นมาของฮวงจุ้ย
ในทางประวัติศาสตร์แล้ว ฮวงจุ้ยถูกใช้ในการจัดวางสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารเสียเป็นส่วนใหญ่ เช่นบ้านหรืออาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของสิ่งปลูกสร้างที่มีความหมายในทางจิตวิญญาณอย่างเช่นสุสาน โดยทั้งหมดเป็นการนำฮวงจุ้ยมาใช้ในด้านเกี่ยวกับความเป็นสิริมงคล ทิศที่ตั้งจะเป็นมงคลอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับการกล่าวถึงองค์ประกอบในแต่ละที่นั้น อันได้แก่ส่วนของน้ำ ดวงดาว หรือทิศทาง เพราะชี่นั้นเมื่ออยู่ในลมก็จะพัดและแตกกระจายแต่เมื่อปนกับน้ำก็จะคงรูปลักษณ์ให้ดำรงอยู่ได้ ฮวงจุ้ยนั้นเคยถูกห้ามใช้และระงับการศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์แขนงนี้ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมช่วงทศวรรษที่ 1960 จีนแผ่นดินใหญ่ แต่หลังจากนั้นก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆต้นกำเนิดของศาสตร์ฮวงจุ้ย
ประวัติศาสตร์ว่าด้วยต้นกำเนิดและที่มาของฮวงจุ้ยนั้นมีมาอย่างยาวนาน หลักฐานชิ้นเก่าแก่ที่สุดที่พบในปัจจุบันปรากฏอยู่ในการจัดวาง ประตูและที่อยู่อาศัยของอารยธรรมบั้นพอ (Banpo) ที่มีอายุรวมหกพันปีโดยประมาณให้เข้ากับตำแหน่งของดวงดาวและสรรพสิ่ง ซึ่งศาสตร์นี้เรียกโดยรวมในสมัยนั้นว่า หยิงฉี โดยหลักฐานทางโบราณคดีพบว่าผู้คนในยุคนั้นมีความเชื่อเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับจักรวาลและมีวิถีที่เป็นไปได้ในการจัดวางให้ความสัมพันธ์นั้นมีความเหมาะสมถูกต้อง จึงสันนิษฐานได้ว่าหยิงฉีเป็นต้นกำเนิดหรือที่มาของชี่ในศาสตร์ฮวงจุ้ยที่รับรู้กันในปัจจุบันแนวคิด
ตามความหมายในระบบคิดของฮวงจุ้ยแล้ว ชี่ที่เป็นศูนย์กลางของระบบคิดนั้นคือพลังชีวิตที่สามารถให้ได้ทั้งคุณสามารถให้ได้ทั้งโทษที่เคลื่อนไหวไปมาได้ ทั้งในฮวงจุ้ยและศาสตร์การต่อสู้แบบจารีตของจีนแบบอื่นๆ ชี่นั้นจะใช้ในความหมายถึงพลังงาน ในแง่ที่สื่อถึงพลังงานชีวิตหรือ elan vital คำอธิบายแบบดั้งเดิมที่มีให้กับ ชี่ นั้นคือเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ยในแง่ของการนำพาโครงสร้างหรือสิ่งปลูกสร้าง อายุของสรรพสิ่ง และการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว ทั้งนี้ยังหมายความรวมไปถึงภูมิอากาศย่นย่อในท้องถิ่น ความชันของแผ่นดิน พันธุ์พืช และคุณภาพของดิน ในหนังสือชื่อ หนังสือว่าด้วยการฝังศพ ได้กล่าวไว้ว่าการฝังศพนั้นใช้ประโยชน์จาก ชี่ที่ให้ชีวิต โดยนักปราชญ์คนหนึ่งในราชวงศ์ชิงได้กล่าวว่า ชี่ที่ให้ชีวิตนั้นเป็นชี่ที่มีความแน่นหนา เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดชีวิตขึ้นมา เพราะฉะนั้นเอง เป้าประสงค์หลักของการปฏิบัติตามฮวงจุ้ยคือการน้อมนำให้ชี่ที่ให้ชีวิตเหล่านี้เข้ามาให้ผลประโยชน์แก่ตัวเรา ในกรณีของสุสานก็คือการจัดวางตำแหน่งและการออกแบบโครงสร้างที่เหมาะสมนั่นเอง ทั้งนี้ก็มีการค้นพบว่ามีกรณีที่บางคนตั้งใจทำลายสุสานของศัตรูเพื่อลงพลังของ ชี่ ของพวกเขาส่วนหัวข้อเรื่องสำคัญในฮวงจุ้ยอีกประการคือเรื่องของการแบ่งฟากระหว่างหยินและหยาง หยางเป็นฝ่ายรับส่วนหยินเป็นฝ่ายมอบ นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องของพลังทั้งห้าอันได้แก่เหล็ก ดิน ไฟ น้ำ และไม้ ซึ่งถูกกล่าวถึงไว้ในงานเขียนคลาสสิคของจีนที่ชื่อ หนังสือว่าด้วยประวัติศาสตร์ ฮวงจุ้ยนั้นจึงเป็นศาสตร์ที่ดำรงอยู่บนการจัดวางให้ทั้งตัวเมือง ผังก่อสร้าง สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งต่างๆ นั้นสามารถดำรงอยู่อย่างเข้ากันได้กับสนามพลังของทั้งหยินและหยาง รวมไปถึงพลังงานอื่นๆ ที่กล่าวมานี้ด้วย
ฮวงจุ้ยคือระบบปรัชญาความคิดของจีนที่ว่าด้วยการทำให้ทุกคนสามารถดำรงอยู่อย่างสอดประสานกับสภาวะแวดล้อม คำว่าฮวงจุ้ยหรือ feng shui นั้นมีความหมายตรงตัวว่า ลม-น้ำ ฮวงจุ้ยเป็นหนึ่งในห้าศิลป์ของปวงอภิปรัชญาจีน โดยถูกจัดหมวดหมู่ให้อยู่ในกลุ่มของฟิสิโอโนมีที่หมายถึงการสังเกตภาวะภายนอกที่ปรากฏด้วยสูตรคำนวณและการคิดคำนวณ การนำฮวงจุ้ยไปใช้นั้นนำไปสู่การครุ่นคิดเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาปัตยกรรมกับความสัมพันธ์ในเชิง อุปมา อุปไมย กับพลังอำนาจที่มองไม่เห็นที่เรียกว่า ฉี ซึ่งเป็นพลังที่ผูกมัดความสัมพันธ์ระหว่างจักรวาล โลก และมนุษยชาติเข้าไว้ด้วยกัน